pang4680@gmail.com
วันอังคารที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554
วันอังคารที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554
วันอังคารที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2554
วิธีการสืบค้นในอินเตอร์เน็ต
ค้นหาแบบที่ 1 ชนิดของการค้นหา
การค้นหาข้อมูลบนบริการเวิลด์ไวด์เว็บหากค้นหาได้เร็วก็ประหยัดทั้งเวลา ค่าไฟฟ้า ค่าออนไลน์อินเทอร์เน็ตและอื่นๆ ที่มักนิยมกันมีสองวิธีคือ...
ค้นหาชื่อ คน องค์กร ผ่านทางส่วนที่เรียกว่า Subject Directories ที่มีการจัดหมวดหมู่ตามหัวเรื่องต่างๆ เพื่อให้การค้นหาทำได้ง่ายขึ้น
ค้นหาผ่านทาง Search Engines โดยการค้นหาผ่านทางโปรแกรมบนเครื่องคอมพิวเตอร์ที่เรียกว่า spiders หรือ robots โดยค้นหาเว็บไซต์ และล็อกของข้อความบนเว็บเพจ ซึ่งจะค้นหาโดยการพิมพ์ข้อความที่ต้องการลงไปในช่อง search (ที่เรียกว่า keyword) ในหน้า search engine จากนั้นก็สแกนหาข้อมูลในฐานข้อมูล และแสดง ผลลัพธ์ออกมาในหน้าของรายการผลการค้นหา และลิงก์ เพื่อนำไปสู่เว็บไซต์
ค้นหาแบบที่ 2 รู้จักกับ Subject Directories
การค้นหาที่หลายคนใช้งานอยู่แต่อาจไม่รู้เนื้อรู้ตัวว่าใช้บริการนี้อยู่ ตัวอย่างของ subject directories ก็เช่นที่...
Yahoo (http://www.yahoo.com) หากต้องการค้นหาแบบแอดวานซ์หน่อยก็ไปที่ http://help.yahoo.com/help/us/ysearch/
Yahooligans (http://www.yahooligans.com) ค้นหาข้อมูล สำหรับคุณหนูๆ หากต้องการความช่วยเหลือในการค้นหาไปที่ (http://www.yahooligans.com/docs/info/help.html)
Open Directory (http://dmoz.org) ค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับ Open Source แหล่งชุมนุมชาวโอเพ่นซอร์ส หรือค้นหาเพิ่มเติมที่ (http://dmoz.org/help/helpmain.html)
LookSmart (http://www.looksmart.com) หรือ แนะนำการค้นหา (http://www.looksmart.com/r?page=/help/main.html)
About.com (http://www.about.com) ไดเรกทอรีที่ช่วยให้ค้นหา Argus Clearinghouse (http://www.clearinghouse.net) ไดเรกทอรีที่จัดลำดับเว็บไซต์
Internet Public Library (http://www.ipl.org/ref/)
Librarians Index to the Internet (http://lii.org) เทคนิคการค้นหา (http://lii.org/search/file/tips)
The WWW Virtual Library (http://vlib.org) แนะนำการค้นหา Search Engines
ค้นหาแบบที่ 3 ค้นหาแบบไลบรารี
มาถึง Search engines ที่ดูจะออกไปทางคล้ายๆ กับการค้นหาที่ห้องสมุด โดยจะแสดงผลออกมาเป็นข้อมูลที่มีการเรียงต่อเนื่องกันไปตัวอย่าง search engines...
Google (http://www.google.com) แนะนำการค้นหาเพิ่มเติม (http://www.google.com/help/index.html)
MSN (http://www.msn.com)
Lycos (http://www.lycos.com) แนะนำการค้นหาเพิ่มเติม (http://help.lycos.com/LycosHelp/help/search/htdocs/search_1_help.htm)
HotBot (http://www.hotbot.com) แนะนำการค้นหาเพิ่มเติม (http://help.lycos.com/LycosHelp/help/hotbot/htdocs/hotbot_1_help.htm)
Northern Light (http://www.northernlight.com) แนะนำการค้นหาเพิ่มเติม (http://www.northernlight.com/docs/search_help_optimize.html)
เลือก search engines ที่ต้องการจากนั้นก็ใส่ คีย์เวิร์ดที่ต้องการค้นหา ลงในช่อง search แล้วคลิ้กปุ่ม Search หรือ Go button, search engine จะทำการค้นหาจากระบบฐานข้อมูลแล้วแสดงเพจผลลัพธ์ที่มีคีย์เวิร์ดดังกล่าวปรากฏอยู่ บาง search engines จะยอมให้พิมพ์เป็นประโยค แล้วเปิดปิดด้วยเครื่องหมาย quotation marks ในช่อง search จากนั้นก็คลิ้กปุ่ม Search หรือ Go เพื่อให้ search engine แสดงผลลัพธ์ดังกล่าวออกมา
ค้นหาแบบที่ 4 ค้นหาแบบ Meta Search Engines
การค้นหาในแบบ Meta search engine จะเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการค้นหาข้อมูลที่ครอบคลุม Metasearch Engine จะไม่ทำการค้นหาผ่านทางระบบฐานข้อมูล แต่จะค้นหาผ่านทางฐานข้อมูลของ search engines มาดูตัวอย่างของ metasearch engines เช่น
DogPile (http://www.dogpile.com) ค้นหาผ่านฐานข้อมูล 13 search engines
Ixquick (http://www.ixquick.com) ค้นหาในแบบเรตติ้ง metatsearch ที่เน้นเฉพาะเว็บยอดนิยม
C4 (http://www.c4.com) ค้นหาจากระบบฐานข้อมูลจาก 11 search engines
Query Search (http://www.queryserver.com/web.htm) แปลความหมายและการค้นหาไปยัง 11 เอนจิ้น โดยการแสดงผลแบบจัดเรียง, เรียงตามหัวข้อ, ข้อมูล และเว็บไซต์
Infozoid (http://www.infozoid.com) ค้นหาจากข้อมูลในแต่ละแหล่งค้นหาผ่าน 15 แหล่งค้นหา
MetaCrawler (http://www.metacrawler.com)
ProFusion (http://www.profusion.com) ค้นหาผ่าน 1000 แหล่งค้นหา
CNET Search (http://www.search.com) ค้นหาจากฐานข้อมูลของ 12 แหล่งค้นหา
One Seek (http://www.oneseek.com) แสดงเว็บลูกโซ่
การเลือกค้นหาจาก metasearch engines นั้นโดยหารใส่คีย์เวิร์ดลงไปในช่อง แล้วคลิ้กปุ่ม Fetch, Go, Find It, Search จากนั้นจะทำการเปรียบเทียบจำนวนผู้เข้าชมและแสดงผลลัพธ์ผ่านทางเว็บเพจ
ค้นหาแบบที่ 5 ค้นหาจาก FAQ, Tips และ Help
คำถามที่มักถามกันบ่อยๆ ก็เช่น search engine ที่ไหนดีที่สุด? ตัวอย่างของแหล่งค้นหาที่ Google มีเว็บเพจให้อ่านมากกว่า 1.3 ล้านเว็บเพจ ไม่ง่ายนักที่จะค้นหาเว็บเพจที่ต้องการ ซึ่งบางครั้งอาจต้องใช้การค้นหาข้อมูลที่พลิกแพลงไปจากเดิมเช่น อ่าน help, พยายามใช้ search engine ตัวใหม่ๆ, อ่านเทคนิคการค้นหา หรือ FAQs (Frequently Asked Questions) ที่แสดงบนแหล่งค้นหานั้นๆ เช่น...
Ask Jeeves (http://www.aj.com) คำถามที่ถูกถามกันบ่อยๆ ในรูปแบบภาษาอังกฤษ เว็บเพจ Help (http://www.aj.com/docs/help/)
Excite (http://www.excite.com) ค้นหาเอกสารตามต้องการ ต้องการข้อมูลช่วยเหลือ (http://www.excite.com/Info/)
Google (http://www.google.com) แสดงผลการค้นหาด้วยเรตติ้งและหมายเลขเพจ เป็นแหล่งค้นหาที่เดียวที่สามารถค้นหาไฟล์ .pdf ได้ ข้อมูลแสดงไฟล์ช่วยเหลือ (http://www.google.com/help/) ...
การค้นหาข้อมูลบนบริการเวิลด์ไวด์เว็บหากค้นหาได้เร็วก็ประหยัดทั้งเวลา ค่าไฟฟ้า ค่าออนไลน์อินเทอร์เน็ตและอื่นๆ ที่มักนิยมกันมีสองวิธีคือ...
ค้นหาชื่อ คน องค์กร ผ่านทางส่วนที่เรียกว่า Subject Directories ที่มีการจัดหมวดหมู่ตามหัวเรื่องต่างๆ เพื่อให้การค้นหาทำได้ง่ายขึ้น
ค้นหาผ่านทาง Search Engines โดยการค้นหาผ่านทางโปรแกรมบนเครื่องคอมพิวเตอร์ที่เรียกว่า spiders หรือ robots โดยค้นหาเว็บไซต์ และล็อกของข้อความบนเว็บเพจ ซึ่งจะค้นหาโดยการพิมพ์ข้อความที่ต้องการลงไปในช่อง search (ที่เรียกว่า keyword) ในหน้า search engine จากนั้นก็สแกนหาข้อมูลในฐานข้อมูล และแสดง ผลลัพธ์ออกมาในหน้าของรายการผลการค้นหา และลิงก์ เพื่อนำไปสู่เว็บไซต์
ค้นหาแบบที่ 2 รู้จักกับ Subject Directories
การค้นหาที่หลายคนใช้งานอยู่แต่อาจไม่รู้เนื้อรู้ตัวว่าใช้บริการนี้อยู่ ตัวอย่างของ subject directories ก็เช่นที่...
Yahoo (http://www.yahoo.com) หากต้องการค้นหาแบบแอดวานซ์หน่อยก็ไปที่ http://help.yahoo.com/help/us/ysearch/
Yahooligans (http://www.yahooligans.com) ค้นหาข้อมูล สำหรับคุณหนูๆ หากต้องการความช่วยเหลือในการค้นหาไปที่ (http://www.yahooligans.com/docs/info/help.html)
Open Directory (http://dmoz.org) ค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับ Open Source แหล่งชุมนุมชาวโอเพ่นซอร์ส หรือค้นหาเพิ่มเติมที่ (http://dmoz.org/help/helpmain.html)
LookSmart (http://www.looksmart.com) หรือ แนะนำการค้นหา (http://www.looksmart.com/r?page=/help/main.html)
About.com (http://www.about.com) ไดเรกทอรีที่ช่วยให้ค้นหา Argus Clearinghouse (http://www.clearinghouse.net) ไดเรกทอรีที่จัดลำดับเว็บไซต์
Internet Public Library (http://www.ipl.org/ref/)
Librarians Index to the Internet (http://lii.org) เทคนิคการค้นหา (http://lii.org/search/file/tips)
The WWW Virtual Library (http://vlib.org) แนะนำการค้นหา Search Engines
ค้นหาแบบที่ 3 ค้นหาแบบไลบรารี
มาถึง Search engines ที่ดูจะออกไปทางคล้ายๆ กับการค้นหาที่ห้องสมุด โดยจะแสดงผลออกมาเป็นข้อมูลที่มีการเรียงต่อเนื่องกันไปตัวอย่าง search engines...
Google (http://www.google.com) แนะนำการค้นหาเพิ่มเติม (http://www.google.com/help/index.html)
MSN (http://www.msn.com)
Lycos (http://www.lycos.com) แนะนำการค้นหาเพิ่มเติม (http://help.lycos.com/LycosHelp/help/search/htdocs/search_1_help.htm)
HotBot (http://www.hotbot.com) แนะนำการค้นหาเพิ่มเติม (http://help.lycos.com/LycosHelp/help/hotbot/htdocs/hotbot_1_help.htm)
Northern Light (http://www.northernlight.com) แนะนำการค้นหาเพิ่มเติม (http://www.northernlight.com/docs/search_help_optimize.html)
เลือก search engines ที่ต้องการจากนั้นก็ใส่ คีย์เวิร์ดที่ต้องการค้นหา ลงในช่อง search แล้วคลิ้กปุ่ม Search หรือ Go button, search engine จะทำการค้นหาจากระบบฐานข้อมูลแล้วแสดงเพจผลลัพธ์ที่มีคีย์เวิร์ดดังกล่าวปรากฏอยู่ บาง search engines จะยอมให้พิมพ์เป็นประโยค แล้วเปิดปิดด้วยเครื่องหมาย quotation marks ในช่อง search จากนั้นก็คลิ้กปุ่ม Search หรือ Go เพื่อให้ search engine แสดงผลลัพธ์ดังกล่าวออกมา
ค้นหาแบบที่ 4 ค้นหาแบบ Meta Search Engines
การค้นหาในแบบ Meta search engine จะเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการค้นหาข้อมูลที่ครอบคลุม Metasearch Engine จะไม่ทำการค้นหาผ่านทางระบบฐานข้อมูล แต่จะค้นหาผ่านทางฐานข้อมูลของ search engines มาดูตัวอย่างของ metasearch engines เช่น
DogPile (http://www.dogpile.com) ค้นหาผ่านฐานข้อมูล 13 search engines
Ixquick (http://www.ixquick.com) ค้นหาในแบบเรตติ้ง metatsearch ที่เน้นเฉพาะเว็บยอดนิยม
C4 (http://www.c4.com) ค้นหาจากระบบฐานข้อมูลจาก 11 search engines
Query Search (http://www.queryserver.com/web.htm) แปลความหมายและการค้นหาไปยัง 11 เอนจิ้น โดยการแสดงผลแบบจัดเรียง, เรียงตามหัวข้อ, ข้อมูล และเว็บไซต์
Infozoid (http://www.infozoid.com) ค้นหาจากข้อมูลในแต่ละแหล่งค้นหาผ่าน 15 แหล่งค้นหา
MetaCrawler (http://www.metacrawler.com)
ProFusion (http://www.profusion.com) ค้นหาผ่าน 1000 แหล่งค้นหา
CNET Search (http://www.search.com) ค้นหาจากฐานข้อมูลของ 12 แหล่งค้นหา
One Seek (http://www.oneseek.com) แสดงเว็บลูกโซ่
การเลือกค้นหาจาก metasearch engines นั้นโดยหารใส่คีย์เวิร์ดลงไปในช่อง แล้วคลิ้กปุ่ม Fetch, Go, Find It, Search จากนั้นจะทำการเปรียบเทียบจำนวนผู้เข้าชมและแสดงผลลัพธ์ผ่านทางเว็บเพจ
ค้นหาแบบที่ 5 ค้นหาจาก FAQ, Tips และ Help
คำถามที่มักถามกันบ่อยๆ ก็เช่น search engine ที่ไหนดีที่สุด? ตัวอย่างของแหล่งค้นหาที่ Google มีเว็บเพจให้อ่านมากกว่า 1.3 ล้านเว็บเพจ ไม่ง่ายนักที่จะค้นหาเว็บเพจที่ต้องการ ซึ่งบางครั้งอาจต้องใช้การค้นหาข้อมูลที่พลิกแพลงไปจากเดิมเช่น อ่าน help, พยายามใช้ search engine ตัวใหม่ๆ, อ่านเทคนิคการค้นหา หรือ FAQs (Frequently Asked Questions) ที่แสดงบนแหล่งค้นหานั้นๆ เช่น...
Ask Jeeves (http://www.aj.com) คำถามที่ถูกถามกันบ่อยๆ ในรูปแบบภาษาอังกฤษ เว็บเพจ Help (http://www.aj.com/docs/help/)
Excite (http://www.excite.com) ค้นหาเอกสารตามต้องการ ต้องการข้อมูลช่วยเหลือ (http://www.excite.com/Info/)
Google (http://www.google.com) แสดงผลการค้นหาด้วยเรตติ้งและหมายเลขเพจ เป็นแหล่งค้นหาที่เดียวที่สามารถค้นหาไฟล์ .pdf ได้ ข้อมูลแสดงไฟล์ช่วยเหลือ (http://www.google.com/help/) ...
วันอังคารที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2554
ผลกระทบการใช้อินเทอร์เน็ต 1โทษของอินเทอร์เน็ต | ||||||||||||||||
โทษของอินเทอร์เน็ต มีหลากหลายลักษณะ ทั้งที่เป็นแหล่งข้อมูลที่เสียหาย, ข้อมูลไม่ดี ไม่ถูกต้อง, แหล่งประกาศซื้อขาย ของผิดกฏหมาย, ขายบริการทางเพศ ที่รวมและกระจายของไวรัสคอมพิวเตอร์ต่างๆ
|
ประวัติอินเตอร์เน็ต
อินเตอร์เน็ตกำเนิดขึ้นเมื่อประมาณปี ค.ศ.1969 หรือประมาณปี พ.ศ. 2512 โดยพัฒนามาจาก อาร์พาเน็ต (ARPAnet) ซึ่งเป็นเครือข่ายคอมพิวเตอร์ภายใต้ความรับผิดชอบของหน่วยงานโครงการวิจัยขั้นสูง (Advanced Research Projects Agency) หรือเรียกชื่อย่อว่า อาร์พา (ARPA) ซึ่งเป็นหน่วยงานในสังกัดกระทรวงกลาโหมของสหรัฐอเมริกา (Department of Defense) จุดประสงค์ของโครงการอาร์พาเน็ต เพื่อสร้างเครือข่ายคอมพิวเตอร์ที่คงความสามารถในการติดต่อสื่อสารถึงกันได้ แม้ว่าจะมีบางส่วนของเครือข่ายไม่สามารถทำงานได้ก็ตาม
อาร์พาเน็ตในขั้นต้นเป็นเพียงเครือข่ายทดลองตั้งขึ้นเพื่อสนับสนุนงานวิจัยด้านการทหาร แต่โดยเนื้อแท้แล้วอาร์พาเป็นผลพวงมาจากความตึงเครียดทางการเมืองของโลก ในยุคสงครามเย็นระหว่างค่ายคอมมิวนิสต์และค่ายเสรีประชาธิปไตย ต่อมาในปี 2512 ได้มีการปรับปรุงหน่วยงานอาร์พาและเรียกชื่อใหม่ว่า ดาร์พา (DARPA : Defense Research Project Agency ) และในปี 2518 ดาร์พาได้โอนหน้าที่ดูแลรับผิดชอบอาร์พาเน็ตโดยตรงให้แก่ หน่วยสื่อสารของกองทัพ (Defense Communications Agency) หรือ DCA เนื่องจากอาร์พาเน็ตได้แปรสภาพจากเครือข่ายที่ปฏิบัติงานได้อย่างแท้จริงแล้ว ในปี 2526 อาร์พาเน็ตแบ่งออกเป็น 2 เครือข่าย คือ เครือข่ายด้านการวิจัยใช้ชื่อ อาร์พาเน็ตเหมือนเดิม ส่วนเครือข่ายของกองทัพใช้ชื่อว่า "มิลเน็ต" (MILNET : MILitary NETwork) ซึ่งใช้การเชื่อมต่อโดยใช้โปรโตคอล TCP/IP (Transmission Control Protocol / Internet Protocol ) เป็นครั้งแรก ในปี 2528 มูลนิธิวิทยาศาสตร์แห่งชาติอเมริกา (NSE) ได้ออกทุนการสร้างศูนย์ซุปเปอร์คอมพิวเตอร์ 6 แห่ง และใช้ชื่อว่า NFSNET พอมีถึงปี 2533 อาร์พาเน็ตรองรับเป็น backbone ไม่ไหวจึงยุติบทบาท และเปลี่ยนไปใช้ NFSNET และเครือข่ายอื่นแทน และได้มีการเชื่อมเครือข่ายต่างๆ ทำให้เครือข่ายมีขนาดใหญ่มากขึ้นจนเป็นเครือข่ายอินเตอร์เน็ตในปัจจุบันนี้
สำหรับประเทศไทย ได้เริ่มมีการติดต่อเชื่อมโยงเข้าสู่อินเตอร์เน็ตใน พ.ศ. 2535 โดยเริ่มที่สำนักวิทยบริการจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งได้เช่าวงจรสื่อสารความเร็ว 9600 บิตต่อวินาทีจากการสื่อสารแห่งประเทศไทย ต่อมาในปี พ.ศ.2536 เนคเทคได้เช่าวงจรสื่อสารความเร็ว 64 กิโลบิตต่อวินาที ซึ่งช่วยเพิ่มความสามารถในการขนถ่ายข้อมูล ทำให้ประเทศไทยมีวงจรสื่อสารระหว่างประเทศ 2 วงจร หน่วยงานต่าง ๆ ที่เข้าร่วมเชื่อมโยงเครือข่ายในระยะแรก ได้แก่ สถาบันอุดมศึกษาต่าง ๆ และต่อมาได้ขยายไปยังหน่วยงานราชการอื่น ๆ
สำหรับภาคเอกชน ได้มีการก่อตั้งบริษัทสำหรับให้บริการอินเตอร์เน็ตแก่เอกชนและบุคคลทั่วไป ที่นิยมเรียกกันว่า ISP (Internet Service Providers)
อินเตอร์เน็ต คือ ระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งเกิดจากระบบคอมพิวเตอร์เครือข่ายย่อย ๆ หลาย ๆ เครือข่ายรวมตัวกันเป็นระบบเครือข่ายขนาดใหญ่ ซึ่งขยายความได้ดังนี้ คือ การที่คอมพิวเตอร์ตั้งแต่ 2 เครื่องขึ้นไป สามารถติดต่อสื่อสารซึ่งกันและกันได้โดยผ่านสาย Cable หรือ สายโทรศัพท์ ดาวเทียม ฯลฯ การติดต่อนั้นจะเป็นการแลกเปลี่ยนข้อมูลซึ่งกันและกัน หรือใช้อุปกรณ์ร่วมกัน เช่น ใช้ Printer หรือ CD-Rom ร่วมกัน เราเรียกพฤติกรรมของคอมพิวเตอร์ลักษณะนี้ว่า เครือข่าย (Network) ซึ่งเมื่อมีจำนวนคอมพิวเตอร์ในเครือข่ายมากขึ้น และมีการเชื่อมโยงกันไปทั่วโลก จนกลายเป็นเครือข่ายขนาดใหญ่ เราเรียกสิ่งนี้ว่า อินเตอร์เน็ต นั่นเอง
การที่คอมพิวเตอร์สามารถติดต่อสื่อสารกันได้นั้น ว่าไปแล้วก็เปรียบเหมือนคนเรา คือต้องมีภาษาพูดคุยกันโดยเฉพาะคนไทยก็พูดภาษาไทย คนอังกฤษก็ต้องพูดภาษาอังกฤษ และภาษาอังกฤษได้ถูกกำหนดเป็นภาษาสากลในการติดต่อสื่อสารกันของทุกประเทศทั่วโลก สำหรับคอมพิวเตอร์ในระบบอินเตอร์เน็ตนั้น ก็มีภาษาที่ใช้คุยกันเหมือนกัน ซึ่งที่ทำให้คอมพิวเตอร์สามารถติดต่อสื่อสารซึ่งกันและกันได้ พูดคุยกันรู้เรื่องนั่นเอง ซึ่งเราเรียกว่าภาษาที่ใช้สื่อสารกันระหว่างคอมพิวเตอร์ว่า โปรโตคอล (Protocol)
เราลองคิดดูว่าเมื่อคอมพิวเตอร์ติดต่อสื่อสารกันนั้น อาจเป็นคอมพิวเตอร์จากเมืองไทย ติดต่อกับคอมพิวเตอร์ที่อเมริกา ซึ่งต้องมีความแตกต่างกันของชนิดเครื่องทาง Hardware และระบบปฏิบัติการ (Operating System) ทาง Software แล้วถ้าคิดถึงทั่วโลกย่อมต้องมีความหลากหลายทาง Hardware และ Software กันมากมาย แต่ทำไมปัจจุบันคอมพิวเตอร์จึงสามารถติดต่อสื่อสารกันได้ ที่เป็นอย่างนี้ก็เพราะ คอมพิวเตอร์ในระบบอินเตอร์เน็ตนั้น จะมีภาษาสากลใช้สื่อสารกันโดยเฉพาะ คือเรียกว่ามี Protocol เฉพาะนั่นเอง ซึ่งเราเรียก Protocol เฉพาะนี้ว่า TCP/IP โดยย่อมาจากคำว่า Transmission Control Protocol (TCP) Internet Protocol (IP) นั่นเอง
เหตุผลสำคัญที่ทำให้อินเตอร์เน็ตได้รับความนิยมแพร่หลาย คือ
1. การสื่อสารบนอินเตอร์เน็ต ไม่จำกัดระบบปฏิบัติการของเครื่องคอมพิวเตอร์ คอมพิวเตอร์ที่ต่างระบบปฏิบัติการกันก็สามารถติดต่อ สื่อสารกันได้ เช่น คอมพิวเตอร์ที่มีระบบปฏิบัติการแบบ Windows 95 สามารถสื่อสารกับคอมพิวเตอร์ที่มีระบบปฏิบัติการแบบ Macintosh ได้
2. อินเตอร์เน็ตไม่มีข้อจำกัดในเรื่องของระยะทาง ไม่ว่าจะอยู่ภายในอาคารเดียวกัน หรือห่างกันคนละทวีป ข้อมูลก็สามารถส่งผ่านถึง กันได้
3. อินเตอร์เน็ตไม่จำกัดรูปแบบของข้อมูล ซึ่งมีได้ทั้งข้อมูลที่เป็นข้อความอย่างเดียว หรืออาจมีภาพประกอบ รวมไปถึงข้อมูลชนิด มัลติมีเดีย คือมีทั้งภาพเคลื่อนไหวและมีเสียงประกอบด้วยได้
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)